คำเตือน
คำชี้แจงกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เรื่องการใช้ “นอมินี” ในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
................................................................................ตามที่มีข่าวว่ามีนายทุนต่างชาติได้เข้ามาทำธุรกิจเกี่ยวกับการปลูกข้าวโดยว่าจ้างคนไทยให้ถือหุ้นแทนหรือให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน ในลักษณะ”นอมินี” เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยง หรือฝ่าฝืนกฎหมายนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ขอเรียนชี้แจงว่าการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร อาทิเช่น การทำนา ทำไร่ ทำสวน การเลี้ยงสัตว์ การทำป่าไม้ การทำการประมง และธุรกิจอื่น ๆ ที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่งท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 เป็นธุรกิจที่สงวนไว้ให้คนไทยโดยห้ามคนต่างด้าวประกอบธุรกิจดังกล่าว โดยเด็ดขาด ซึ่งคนต่างด้าวที่ถูกห้ามประกอบธุรกิจดังกล่าว ได้แก่
1. บุคคลธรรมดาซึ่งไม่มีสัญชาติไทย
2. นิติบุคคลซึ่งไม่ได้จดทะเบียนในประเทศไทย
3. นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยที่มีหุ้นหรือทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งเป็นของบุคคล หรือนิติบุคคลตาม(1) หรือ(2) หรือมีหุ้นส่วนผู้จัดการหรือผู้จัดการเป็นบุคคลตาม(1)
4. นิติบุคคลซึ่งจดทะเบียนในประเทศไทยมีทุนตั้งแต่กึ่งหนึ่งเป็นของบุคคลตาม(1)(2) หรือ(3)
คนต่างด้าวที่ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจที่ห้ามดังกล่าว มีโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาท ถึง หนึ่งล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเลิกประกอบธุรกิจ หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมีโทษปรับวันละหนึ่งหมื่นบาทถึงห้าหมื่นบาท สำหรับคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือ หรือสนับสนุน หรือร่วมประกอบธุรกิจกับคนต่างด้าว เข่นการถือครองหุ้นแทนคนต่างด้าว การแสดงออกว่าธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจของตนเองเพื่อให้คนต่างด้าวหลีกเลี่ยงประกอบธุรกิจที่ต้องห้าม ต้องได้รับในอัตราโทษเดียวกัน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลและติตามสถานการณ์ในเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่พบข้อมูลหรือหลักฐานการกระทำความผิดในท้องที่ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากมีการกระทำความผิดของกลุ่มนายทุนต่างชาติหรือคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือสนับสนุนคนต่างด้าวให้ประกอบธุรกิจโดยฝ่าฝืนกฎหมายจริงย่อมส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการไทย และความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ดังนั้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจึงใคร่ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกท่านหากผู้ใดพบเห็น มีข้อมูล หรือเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวขอให้แจ้งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทราบด้วย สำหรับในต่างจังหวัดสามารถแจ้งต่อผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานพาณิชย์จังหวัด หรือ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดได้ทุกแห่ง
จึงเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน
…………………………..……………………….
หากมีข้อสงสัย หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. ๐๕๓-๖๑๒๗๔๒ E-mail Address : maehongson@dbd.go.th
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
บัญชีหนึ่ง
ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษ
(๑) การทำกิจการหนังสือพิมพ์ การทำกิจการสถานีวิทยุกระจายเสียง หรือสถานีวิทยุโทรทัศน์
(๒) การทำนา ทำไร่ หรือทำสวน
(๓) การเลี้ยงสัตว์
(๔) การทำป่าไม้และการแปรรูปไม้จากป่าธรรมชาติ
(๕) การทำการประมงเฉพาะการจับสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยและในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของประเทศไทย
(๖) การสกัดสมุนไพรไทย
(๗) การค้าและการขายทอดตลาดโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศ
(๘) การทำหรือหล่อพระพุทธรูป และการทำบาตร
(๙) การค้าที่ดิน
บัญชีสอง
ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัย หรือความมั่นคงของประเทศหรือมีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรม จารีตประเพณี หัตถกรรมพื้นบ้าน หรือทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หมวด ๑ ธุรกิจที่เกี่ยวกับความปลอดภัยหรือความมั่นคงของประเทศ
(๑) การผลิต การจำหน่าย และการซ่อมบำรุง
(ก) อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ดินปืน วัตถุระเบิด
(ข) ส่วนประกอบของอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และวัตถุระเบิด
(ค) อาวุธยุทโธปกรณ์ เรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะทางการทหาร
(ง) อุปกรณ์หรือส่วนประกอบของอุปกรณ์สงครามทุกประเภท
(๒) การขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศในประเทศ รวมถึงกิจการการบินในประเทศ
หมวด ๒ ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อศิลปวัฒนธรรมจารีตประเพณี และหัตถกรรมพื้นบ้าน
(๑) การค้าของเก่า หรือศิลปวัตถุซึ่งเป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรมของไทย
(๒) การผลิตเครื่องไม้แกะสลัก
(๓) การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหมไทย หรือการพิมพ์ลวดลายผ้าไหมไทย
(๔) การผลิตเครื่องดนตรีไทย
(๕) การผลิตเครื่องทอง เครื่องเงิน เครื่องถม เครื่องทองลงหิน หรือเครื่องเขิน
(๖) การผลิตถ้วยชามหรือเครื่องปั้นดินเผาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมไทย
หมวด ๓ ธุรกิจที่มีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติหรือสิ่งแวดล้อม
(๑) การผลิตน้ำตาลจากอ้อย
(๒) การทำนาเกลือ รวมทั้งการทำเกลือสินเธาว์
(๓) การทำเกลือหิน
(๔) การทำเหมือง รวมทั้งการระเบิดหรือย่อยหิน
(๕) การแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
บัญชีสาม
ธุรกิจที่คนไทยยังไม่มีความพร้อมที่จะแข่งขันในการประกอบกิจการกับคนต่างด้าว
(๑) การสีข้าว และการผลิตแป้งจากข้าวและพืชไร่
(๒) การทำการประมง เฉพาะการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
(๓) การทำป่าไม้จากป่าปลูก
(๔) การผลิตไม้อัด แผ่นไม้วีเนียร์ ชิปบอร์ด หรือฮาร์ดบอร์ด
(๕) การผลิตปูนขาว
(๖) การทำกิจการบริการทางบัญชี
(๗) การทำกิจการบริการทางกฎหมาย
(๘) การทำกิจการบริการทางสถาปัตยกรรม
(๙) การทำกิจการบริการทางวิศวกรรม
(๑๐) การก่อสร้าง ยกเว้น
(ก) การก่อสร้างสิ่งซึ่งเป็นการให้บริการ พื้นฐานแก่ประชาชนด้านการสาธารณูปโภคหรือการคมนาคมที่ต้องใช้เครื่องมือ เครื่องจักร เทคโนโลยีหรือความชำนาญในการก่อสร้างเป็นพิเศษ โดยมีทุนขั้นต่ำของคนต่างด้าวตั้งแต่ห้าร้อยล้านบาทขึ้นไป
(ข) การก่อสร้างประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๑๑) การทำกิจการนายหน้าหรือตัวแทน ยกเว้น
(ก) การเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนซื้อขายหลักทรัพย์หรือการบริการที่เกี่ยวกับการซื้อขายล่วงหน้าซึ่งสินค้า เกษตรหรือตราสารทางการเงินหรือหลักทรัพย์
(ข) การเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนซื้อขายหรือจัดหาสินค้าหรือบริการที่จำเป็นต่อการผลิตหรือการให้บริการของวิสาหกิจในเครือเดียวกัน
(ค) การเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนซื้อขาย จัดซื้อหรือจัดจำหน่ายหรือจัดหาตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อการจำหน่ายซึ่งสินค้าที่ผลิตในประเทศหรือนำเข้ามาจากต่างประเทศอันมีลักษณะ เป็นการประกอบธุรกิจระหว่างประเทศ โดยมีทุนขั้นต่ำของคนต่างด้าวตั้งแต่หนึ่งร้อยล้านบาทขึ้นไป
(ง) การเป็นนายหน้าหรือ ตัวแทนประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๑๒) การขายทอดตลาด ยกเว้น
(ก) การขายทอดตลาด ที่มีลักษณะเป็นการประมูลซื้อขายระหว่างประเทศที่มิใช่การประมูลซื้อขายของเก่า วัตถุโบราณ หรือศิลปวัตถุซึ่งเป็นงานศิลปกรรม หัตถกรรม หรือโบราณวัตถุของไทย หรือที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของประเทศ
(ข) การขายทอดตลาด ประเภทอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
(๑๓) การค้าภายในเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือผลิตผลทางการเกษตรพื้นเมืองที่ยังไม่มีกฎหมายห้ามไว้
(๑๔) การค้าปลีกสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำรวมทั้งสิ้นน้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท หรือที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่ายี่สิบล้านบาท
(๑๕) การค้าส่งสินค้าทุกประเภทที่มีทุนขั้นต่ำของแต่ละร้านค้าน้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท
(๑๖) การทำกิจการโฆษณา
(๑๗) การทำกิจการโรงแรม เว้นแต่บริการจัดการโรมแรม
(๑๘) การนำเที่ยว
(๑๙) การขายอาหารหรือเครื่องดื่ม
(๒๐) การทำกิจการเพาะขยายหรือปรับปรุงพันธุ์พืช
(๒๑) การทำธุรกิจบริการอื่น ยกเว้นธุรกิจบริการที่กำหนดในกฎกระทรวง
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๒๘๑ ลงวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๕ ซึ่งใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันได้ออกใช้บังคับมาเป็นเวลานานแล้ว และมีหลักการบางประการไม่สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ การลงทุน และการค้าระหว่างประเทศในปัจจุบัน สมควรปรับปรุงกฎหมายดังกล่าวเสียใหม่ เพื่อส่งเสริมให้มีการแข่งขันในการประกอบธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยโดยส่วนรวม ทั้งยังเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับ พันธกรณีตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้วย จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น